มิดเดิลสโบรช์
หลังตกชั้นจากลีกสูงสุดในปี 1982 มิดเดิลสโบรช์ ประสบปัญหาการเงินขั้นรุนแรง จนเข้าสู่จุดวิกฤติในปี 1986 ที่สโมสรต้องตกชั้นอีกขั้นลงสู่ ดิวิชั่น 3 หรือ ลีกวัน ปัจจุบัน
สตีฟ กิ๊บสัน ชาวเมืองมิดเดิลสโบรช์ ที่เป็นแฟนบอลพันธ์แท้ของ มิดเดิลสโบรช์ มาทั้งชีวิต กลายเป็นคนที่เข้ามาช่วยเซฟสถานการณ์อันเลวร้ายของสโมสรในช่วงเวลานั้น หลังจากก้าวเข้าร่วมอยู่ในบอร์ดบริหารของสโมสรก่อนหน้านั้นสองปี และกลายเป็นสมาชิกอายุน้อยที่สุดของสโมสรในวัยเพียง 26 ปี
เดอะ โบโร่ ค่อยๆ ฟื้นคืนชีพ เลื่อนชั้นสู่ ดิวิชั่น 1 หรือ ลีกสูงสุดภายในระยะเวลาเพียงสองปี แม้ตกชั้นอีกครั้ง แต่ก็เลื่อนชั้นขึ้นมาในปี 1992 ทันช่วงเวลาที่ลีกสูงสุดเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก พอดิบพอดีเป๊ะ
แต่ฤดูกาลแรกของพรีเมียร์ลีกที่คุมทีมโดย เลนนี่ ลอว์เรนซ์ เดอะ โบโร่ ไม่มีอาวุธมากพอที่จะไปสู้รบกับทีมอื่น และสุดท้ายก็ต้องตกชั้นสู่ ดิวิชั่น 1 หรือ แชมเปี้ยนชิพ ปัจจุบัน เพียงปีเดียว
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับสโมสรหลังจากนั้น เมื่อ กิ๊บสัน กว้านซื้อหุ้นของสโมสรจนถืออยู่ในมือ 90 เปอร์เซนต์ และนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรต่อจาก โคลิน เฮนเดอร์สัน ในปี 1994
หลังจากลงไปอยู่ใน ดิวิชั่น 1 หรือ แชมเปี้ยนชิพ ปัจจุบัน โอลด์แฮม แต่งตั้ง ชาร์ป ให้รับบทผู้เล่น-ผู้จัดการทีม แต่ก็ไปไม่รอดในอีกสามปีต่อมา ที่ต้องตกชั้นอีกขั้นสู่ ดิวิชั่น 2 หรือ ลีกวัน ปัจจุบัน และ ชาร์ป ก็อำลาทีม
โอลด์แฮม ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ใน ดิวิชั่น 2 (จนกระทั่งเปลี่ยนชื่อมาเป็น ลีกวัน เมื่อปี 2004) มาอย่างยาวนาน 21 ฤดูกาลติดต่อกัน และด้วยปัญหาทางการเงินที่ประสบหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดก็ส่งผลถึงฟอร์มในสนาม และต้องตกชั้นลงสู่ ลีกทู เมื่อสองปีก่อน
ฤดูกาลปัจจุบัน ศึกลีกทูตัดจบซีซั่นหลังผ่าน 36-37 เกม โดยที่ โอลด์แฮม จบอันดับ 19 (จาก 24 ทีม) กลายเป็นงานเข็นครกขึ้นภูเขาลูกใหญ่ หากหวังจะเลื่อนชั้นกลับสู่ ลีกวัน ในเร็วๆ นี้
กิ๊บสัน สร้างความฮือฮาด้วยการดึง ไบรอัน ร็อบสัน ตำนานทีมชาติอังกฤษ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมในวัย 31 ปี ในบทบาทผู้เล่น-ผู้จัดการทีม และใช้เวลาปีเดียวเลื่อนชั้นในฐานะแชมป์ กลับสู่พรีเมียร์ลีกปี 1995
การกลับมาหนนี้ ทำให้โลกฟุตบอลต้องจดจำชื่อสโมสร มิดเดิลสโบรช์ ไปตลอดกาล เพราะ กิ๊บสัน ควักกระเป๋าสร้างสนามใหม่เอี่ยมอ่อง ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม และเปิดใช้งานครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 1995-96 พร้อมกับทุ่มงบซื้อ จูนินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรุกบราซิล ตามด้วย ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ กองหน้าอิตาเลียนในปีต่อมา