ผมก็เผชิญหน้ากับความยากจน
"ผมเกิดมา ผมก็เผชิญหน้ากับความยากจนแล้ว กระทั่งตอนนี้ ผมมีอาหารทานครบ 3 มื้อ แต่ความจริงคือ บางคนไม่มีอะไรกินประทังชีวิตด้วยซ้ำ สำหรับผม ครอบครัวคือสิ่งสำคัญเหนือสิ่งใด บาคาร่าออนไลน์ เป็นประจำทุกเดือน ผมจะส่งเงินกลับไปให้พวกเขา นอกจากครอบครัวแล้ว ผมยังมอบเงินบริจาค เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ด้อยโอกาส เพราะอย่างที่ผมบอกไป ผมถูกหล่อหลอมมาด้วยความยากจน" คำพูดของ โอเดียน อิกาโล่
"เงินดังกล่าวของผม ถูกส่งไปให้กับเด็กน้อย และตามโรงเรียนต่างๆ ผมยังอุปการะแม่ม่ายหลายต่อหลายคน ที่แยกทางกับสามีไป ผมพยายามสร้างองค์กรการกุศล เพื่อมอบอะไรกลับไปสู่สังคมบ้าง" อิกาโล่ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือ นอกจากกลุ่มเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ ในส่วนของกลุ่มแม่ม่าย และคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องลำบากจากการต่อสู้ชีวิตเพียงลำพัง เขาก็ไม่มองข้ามเช่นเดียวกัน
"ผมเติบโตมาในย่านสลัม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก แต่เมื่อสุดสัปดาห์มาถึง ความตื่นเต้นก็จะเข้ามา เพราะทุกคนต่างอยากจะดูทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามแข่งขัน ด้วย้หตุนี้ คุณต้องเริ่มเก็บเงินที่ได้จากการไปโรงเรียน สะสมทีละเล็กทีละน้อย เพื่อเฝ้ารอช่วงเวลาสุดสัปดาห์
ไม่นานมานี้ บ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง เกิดขึ้นมาในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ถือว่าเป็นชานเมืองที่ยากจน ที่อยู่ทางตอนเหนือของลากอส งบประมาณในการสร้างกว่า 1 ล้านปอนด์ นำมาจากเงินส่วนตัวของเขา ที่อยากเห็นคนท้องถิ่น มีอนาคตในชีวิตที่ดีขึ้น
"ผมเติบโตมาอย่างยากลำบากในเอเจ ซิตี้ ผมเคยสาบานกับตัวเองว่า หากผมมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็อยากตอบแทนบางอย่างกลับคืนสู่สังคมที่ผมเติบโตมา ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ผมมีส่วนในการชี้แสงสว่างให้กับเด็กกำพร้า"
บ้านเด็กกำพร้าที่เขาสร้างขึ้นมา สามารถรองรับเด็กได้ประมาณ 30 ถึง 40 คน โดยมีห้องแยกต่างหาก สำหรับเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิง โดยบ้านหลังนี้จะอุปการะเด็กจนถึงอายุ 18 ปี หรือเป็นวัยที่พวกเขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ซึ่งบ้านหลังนี้ ยังคอยดูแลในเรื่องของการศึกษา และการเล่นกีฬาด้วย ถือเป็นการสนับสนุนในทุกช่องทาง
ช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากการเล่นฟุตบอล เขามักเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้เสมอ ผ่านการพูดคุย และมอบเงินให้กับเด็กๆ หากมองจากภายนอก นี่คือบ้านแสนธรรมดา ที่ประดับประดาด้วยกำแพงสีส้ม พร้อมกับข้อความขอบคุณพระเจ้า
แต่ภายในนั้น กลับตลบอบอวลไปด้วยความอบอุ่น ASIA369 และรอยยิ้มแห่งความหวัง ทั้งจากผู้ให้อย่างเขา และจากผู้รับอย่างเด็กๆ ที่แม้ไม่มีผู้ปกครองเหมือนคนส่วนใหญ่ ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่า ชีวิตมีอะไรที่ขาดหายไปเลย
"ผมใฝ่ฝันอยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต นี่คือหนึ่งก้าว บนเส้นทางเดินที่ถูกต้อง ผมอยากให้ชีวิตพัฒนาขึ้นในเชิงบวก ผ่านความมุ่งหมาย และเป้าหมายของบ้านเด็กกำพร้า"